วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553
บทวิเคราะห์
ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขของผู้ป่วยเอดส์เฉพาะที่มีการรายงานเข้ากองควบคุมโรคเอดส์ วัณโรค และ โรงติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ได้รายงานหรือแพทย์ยังวินิจฉัยไม่ได้คงมีอีก 2 - 3 เท่าตัว
ตัวเลขของคนที่เป็นโรคเอดส์เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกประเทศทั่วโลก สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดมีการติดเชื้อ มักเกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจและขาดการป้องกันที่ดีพอ และสภาพทางสิ่งแวดล้อม และสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ปัจจัยอื่น ๆเช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกันในการเสพสารเสพติด การติดเชื้อจากแม่สู่ลูก สำหรับผู้ที่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นพบว่ามีอุบัติการณ์การเกิดโรคดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น 2-5 เท่า ตัวเลขล่าสุดที่พบตามปัจจัยเสี่ยงตั้งแต่จากเดือนกันยายน 2527 ถึง 2552 พบมีผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทยที่จำแนกตามปัจจัยเสี่ยงได้รับ 5 อันดับ ปัจจัยเสี่ยงเชื้อเอดส์มากที่สุดคือ อันดับ 1 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ เพราะไม่ส้วมถุงยางอนามัย ร้อยละ 79.32 อันดับ 2 ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ ร้อยละ 10.31 อันดับ 3 ไม่ทราบปัจจัยเสี่ยง ร้อยละ 6.91 อันดับ 4 ติดเชื้อจากมารดา ร้อยละ 3.45 ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่รับเชื้อน้อยที่สุด คือ การรับเลือดจากผู้ติดเชื้อเอดส์ ร้อยละ 0.02
ตัวเลขของผู้ติดเชื้อที่ได้จำแนกจากกลุ่มอายุจากเดือนกันยายน 2527 ถึง 255 พบว่า มีผู้ป่วยเอดส์ทั้งสิ้น 37,503 ราย มีชีวิตอยู่ 28,680 ราย เสียชีวิต 8,823 ราย กลุ่มอายุที่เสียชีวิตมากที่สุด คือ 30-34 ปี ร้อยละ 22.36 และเด็กอายุ 0-4 ปี ร้อยละ 3.11 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ผู้ป่วยเอดส์ส่วนใหญ่พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงคิดเป็นอัตราส่วน 2.8 ต่อ 1 กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุดอยู่ในวัยทำงานอายุ 30-34 ปี ร้อยละ 23.50 รองลงมาอายุ 25-29 ปี ร้อยละ 19.80 และอายุ 35-39 ปี ร้อยละ 19.02 โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ลูกจ้างในโรงงาน กรรมกร ขับรถรับจ้าง ซึ่งคนกลุ่มนี้มักมีการเคลื่อนย้ายบ่อยๆ ทำให้ขาดโอกาสรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และยังใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ดื่มเหล้า เที่ยวสถานเริงรมย์ และมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
ตัวเลขของคนที่เป็นโรคเอดส์เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกประเทศทั่วโลก สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดมีการติดเชื้อ มักเกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจและขาดการป้องกันที่ดีพอ และสภาพทางสิ่งแวดล้อม และสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ปัจจัยอื่น ๆเช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกันในการเสพสารเสพติด การติดเชื้อจากแม่สู่ลูก สำหรับผู้ที่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นพบว่ามีอุบัติการณ์การเกิดโรคดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น 2-5 เท่า ตัวเลขล่าสุดที่พบตามปัจจัยเสี่ยงตั้งแต่จากเดือนกันยายน 2527 ถึง 2552 พบมีผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทยที่จำแนกตามปัจจัยเสี่ยงได้รับ 5 อันดับ ปัจจัยเสี่ยงเชื้อเอดส์มากที่สุดคือ อันดับ 1 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ เพราะไม่ส้วมถุงยางอนามัย ร้อยละ 79.32 อันดับ 2 ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ ร้อยละ 10.31 อันดับ 3 ไม่ทราบปัจจัยเสี่ยง ร้อยละ 6.91 อันดับ 4 ติดเชื้อจากมารดา ร้อยละ 3.45 ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่รับเชื้อน้อยที่สุด คือ การรับเลือดจากผู้ติดเชื้อเอดส์ ร้อยละ 0.02
ตัวเลขของผู้ติดเชื้อที่ได้จำแนกจากกลุ่มอายุจากเดือนกันยายน 2527 ถึง 255 พบว่า มีผู้ป่วยเอดส์ทั้งสิ้น 37,503 ราย มีชีวิตอยู่ 28,680 ราย เสียชีวิต 8,823 ราย กลุ่มอายุที่เสียชีวิตมากที่สุด คือ 30-34 ปี ร้อยละ 22.36 และเด็กอายุ 0-4 ปี ร้อยละ 3.11 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ผู้ป่วยเอดส์ส่วนใหญ่พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงคิดเป็นอัตราส่วน 2.8 ต่อ 1 กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุดอยู่ในวัยทำงานอายุ 30-34 ปี ร้อยละ 23.50 รองลงมาอายุ 25-29 ปี ร้อยละ 19.80 และอายุ 35-39 ปี ร้อยละ 19.02 โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ลูกจ้างในโรงงาน กรรมกร ขับรถรับจ้าง ซึ่งคนกลุ่มนี้มักมีการเคลื่อนย้ายบ่อยๆ ทำให้ขาดโอกาสรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และยังใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ดื่มเหล้า เที่ยวสถานเริงรมย์ และมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น